SFLEX สตรอง! เปิดกลยุทธ์บันได 3 ขั้น สู่ 3 Synergyจับ Trend โลก – รุกขยายตลาด – มีวัตถุดิบพร้อมเสิร์ฟเพิ่มความสามารถแข่งขัน หนุนรายได้ไม่ต่ำกว่า 6,000 ลบ.ในปี 70

SFLEX สตรอง! เปิดกลยุทธ์บันได 3 ขั้น สู่ 3 Synergyจับ Trend โลก – รุกขยายตลาด – มีวัตถุดิบพร้อมเสิร์ฟเพิ่มความสามารถแข่งขัน หนุนรายได้ไม่ต่ำกว่า 6,000 ลบ.ในปี 70

บมจ.สตาร์เฟล็กซ์ หรือ SFLEX เปิดแผนบันได 3 ขั้น หวังรับรู้ Megatrend ของการใช้บรรจุภัณฑ์ในตลาดโลก เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ขยายตลาดสู่ ASEAN และเดินหน้าหา Partner ที่เหมาะสมกับอุตสาหกรรมต้นน้ำ ฟากผู้บริหาร "สมโภชน์ วัลยะเสวี" เชื่อมั่นแผนงานเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน พร้อมตั้งเป้าหมายในปี 2570 จะมีรายได้พุ่งแตะระดับ 6,000 ล้านบาท นำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน แย้มแนวโน้มผลงานทั้งปีเข้าเป้า 1,800 - 1,850 ล้านบาท แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ดร.สมโภชน์ วัลยะเสวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) (SFLEX) ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนชั้นนำในประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางแผนการดำเนินธุรกิจในระยะยาวเพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ด้วยกลยุทธ์บันได 3 ขั้น เริ่มด้วยบันไดขั้นที่ 1 คือการJoint Venture กับกลุ่มผู้ผลิตอาหารทะเลรายใหญ่ที่มีการวางจำหน่ายสินค้าไปทั่วโลก ซึ่งภายหลังการSynergy ทำให้ SFLEX สามารถรับรู้ Megatrend ของการใช้บรรจุภัณฑ์อาหารจากลูกค้าของหุ้นส่วนทั่วโลก และมองเห็นโอกาสการเติบโตในตลาดบรรจุภัณฑ์อาหารได้อีกมาก พร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และก้าวสู่การเป็นผู้นำบรรจุภัณฑ์ด้านอาหารในระยะเวลาอันสั้น

บันไดขั้นที่ 2 คือ การจับมือกับบริษัทบรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่ ซึ่งก่อให้เกิดการ Synergy ในหลายมิติ ทั้งเป็นการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าบรรจุภัณฑ์ให้มากขึ้น สร้างโอกาสของผลิตภัณฑ์เดิมที่จะขยายสู่ตลาดโลก โดยผ่านฐานลูกค้าเดิม สามารถใช้ความได้เปรียบเชิงพื้นที่ (Locational Advantage) ในการจัดหาแหล่งวัตถุดิบต้นทุนต่ำ และสุดท้ายเกิดความร่วมมือในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนในอนาคต

และที่สำคัญ บันไดขั้นที่ 3 คือ การหา Partner ที่เหมาะสมกับอุตสาหกรรมต้นน้ำ เพื่อสร้างนวัตกรรมในการผลิตและวัตถุดิบที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งสามารถบรรลุจุดมุ่งหมายของบริษัทฯ ในการสร้าง Common Spec ของวัตถุดิบที่สามารถใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการวัตถุดิบ และสุดท้ายบริษัทฯ สามารถลดต้นทุนวัตถุดิบได้ในระยะยาว

“ปัจจุบันบริษัทฯ เดินทางผ่านบันได 2 ขั้นเรียบร้อยแล้ว และกำลังมุ่งหน้าสู่ขั้นที่ 3 โดยเดินหน้าศึกษาหาบริษัทต้นน้ำที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากบรรลุจุดมุ่งหมายทั้ง 3 ขั้นแล้ว เชื่อมั่นว่าจะเป็นแนวทางสำคัญที่ผลักดันให้บริษัทฯ มีความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ไม่น้อยกว่า 6,000 ล้านภายในปี 2570 นำไปสู่ความยั่งยืนในอนาคตอย่างถาวร” ดร.สมโภชน์ กล่าว

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2566 บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถเดินทางสู่เป้าหมายที่วางไว้ โดยคาดการณ์รายได้อยู่ที่ประมาณ 1,800 - 1,850 ล้านบาท เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากกลยุทธ์การขยายตลาดเชิงรุกในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ให้มาร์จิ้นสูง อีกทั้งการวางแผนบริหารพอร์ตสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ บริหารจัดการวัตถุดิบอย่างเป็นระบบร่วมกับ Supplier ทั้งในและต่างประเทศไว้อย่างดี ประกอบกับกำลังการผลิตที่สูงขึ้นจะช่วยลดต้นทุนคงที่ต่อหน่วยอีกด้วย

ข่าวเกี่ยวข้อง